พ่อโพสต์คลิปส่งลูกสาวเข้าหอพัก ถูกคอมเมนต์เยาะเย้ย “มหาลัยระดับล่าง” ฉุนจนต้องเปิดเผยตัวตน ตบหน้าคนทั้งโซเชียลฯ ขาเมาท์สงบปาก
การเข้ามหาวิทยาลัยเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของนักศึกษาใหม่ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ปกครองหลายคนจึงหวังที่จะพาลูกๆ ไปส่งด้วยตนเองในวันแรก นอกจากเพื่อดูแลให้เดินทางอย่างปลอดภัยแล้ว ยังต้องการเยี่ยมชมสถานศึกษาเพื่อดูว่าสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ หรือที่พักของบุตรหลานตลอดระยะเวลา 4 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
คุณพ่อคนหนึ่งในมณฑลส่านซี ประเทศจีน ก็มีความคิดแบบเดียวกัน หลังจากลูกสาวสอบเข้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีฉ่านซี เขาก็ตัดสินใจส่งลูกไปทำเรื่องต่างๆ รวมทั้งช่วยขนของย้ายเข้าหอพักด้วยตนเอง เพื่อใช้โอกาสนี้สังเกตสิ่งอำนวยความสะดวกของหอพัก เมื่อเห็นว่าห้องพักถูกจัดให้ใช้ร่วมกันสำหรับ 4 คน และมีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศไว้ให้เรียบร้อยแล้วด้วย ผู้เป็นพ่อจึงถอนหายใจด้วยความโล่งออก ก่อนตัดสินใจโพสต์วิดีโอเล่าว่า
“วันนี้ผมพาลูกสาวไปลงทะเบียนที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีส่านซี ไม่คาดคิดว่าหอพักหญิงจะมีเพียง 4 คนต่อห้องเท่านั้น และมีเครื่องปรับอากาศคุณภาพดี ทุกอย่างเรียบร้อยดี บรรยากาศวิทยาเขตแห่งนี้ก็ดีมากเช่นกัน ผมพอใจกับสถานศึกษาแห่งนี้มาก”
แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ คลิปวิดีโอธรรมดาๆ นี้กลายเป็นกระแสไวรัล ดึงดูดคนกดไลค์นับแสนคนและความคิดเห็นเกือบ 10,000 รายการ สิ่งที่ทำให้หลายคนรู้สึกแย่และไม่พอใจแทนคุณพ่อดก็คือ มีชาวเน็ตจำนวนมากมารวมตัวกันคอมเมนต์เชิงวิพากษ์วิจารณ์และดูหมิ่นอย่างหยาบคาย โดยมีเจตนาที่จะหัวเราะเยาะมหาวิทยาลัยที่ลูกสาวของผู้โพสต์เข้าศึกษา เช่น
“ไม่มีอะไรน่าภาคภูมิใจเกี่ยวกับมหาลัยอันดับล่างแห่งนี้”
“ถ้าคุณเรียนที่มหาลัยอันดับล่างสุด คุณจะว่างงานหลังจากเรียนจบ จะเสียเงินเรียนไปทำไม”
“เมื่อเรียนจบคุณจะรู้สึกสิ้นหวัง มหาลัยชั้นสองก็เป็นแบบนี้แหละ”
“เฮ้ มีใครเขาอยากเข้าเรียนที่นี่กันมั้ย ไม่มีนะ”
อย่างไรก็ดี คุณพ่อคนนี้ยังคงไม่แสดงความโกรธใดๆ ออกมา เขาเพียงเลือกจะไขข้อข้องใจสำหรับความคิดเห็นที่ “ใส่ร้าย” ว่าลูกสาวของเขาจะตกงานหลังจากเรียนจบ โดยชี้แจงด้วยประโยคสั้น ๆ ว่า “ใครจะรู้ บางทีลูกสาวของผมอาจจะกลับมาทำงานที่บริษัทของผมหลังจากเรียนจบ?”
ปรากฎว่าแท้จริงล้วคุณพ่อคนนี้เป็นผู้อำนวยการของบริษัทวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่ง และเป็นเจ้าของโรงงานผลิต ตัวตัดเทป ที่ตัดเทป เมื่อรู้ตัวตนของเขาแล้วชาวเน็ตส่วนมากที่เคยล้อเลียก็พากันสงบปากไป ถึงกระนั้นก็ยังมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ “ดื้อรั้น” บางส่วนที่ยังไม่ยอมแพ้ คนเหล่านี้เชื่อว่าด้วยสถานการณ์ปัจจุบันอุตสาหกรรมก่อสร้างไม่พัฒนาอีกต่อไป และเมื่อลูกสาวของเขาเรียนจบก็อาจจะยังว่างงานอยู่ตามปกติ เมื่อได้ยินดังนั้นผู้เป็นพ่อก็ตอบโต้อย่างสงบอีกครั้งว่า “ใครจะรู้บางทีการค้าขายวัสดุก่อสร้างอาจเป็นแค่งานอดิเรกก็ได้”
ดูเหมือนว่านอกจากวัสดุก่อสร้างแล้ว บริษัทแม่รายนี้ยังทำธุรกิจด้านอื่นๆ อีกมากมายอีกด้วย ช่างเป็นการ “โต้กลับ” ที่ไม่มีใครประสบความสำเร็จไปกว่านี้อีกแล้ว! แน่นอนว่าความสงบและวิสัยทัศน์ของคุณพ่อคนนี้ทำให้หลายคนชื่นชม แต่สิ่งที่ทำให้วัยรุ่นคนอื่นๆ เข้ามาชื่นชมว่าลูกสาวของเขาโชคดี ไม่ใช่เพราะมีพ่อที่เป็นผู้อำนวยการบริษัท แต่เธอมีพ่อที่รักสงบ มีวัฒนธรรมที่ดี มีวิสัยทัศน์ และใจกว้าง