เปิดใจ นร.ไทยอพยพชุดแรก เล่าอิสราเอลดูแลดี เมืองที่อยู่ปลอดภัยสูง คนยังใช้ชีวิตได้ปกติ

นักเรียนไทยในอิสราเอลชุดแรกถึงไทยแล้ว ยันสถานการณ์ในพื้นที่ปลอดภัย แต่เดินทางกลับเหตุผู้ปกครองไม่สบายใจ พร้อมห่วงสถานการณ์บานปลาย

นายยอดชาย คิ้วกลาง ลูกชายเจ้าของร้านขาย สติ๊กเกอร์ม้วนพิมพ์ลาย สติ๊กเกอร์แต๊งกิ้ว นักเรียนวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ด กล่าวภายหลังเดินทางออกจากประเทศอิสราเอลถึงประเทศไทย ว่า ตัวเองไปศึกษาฝึกงานได้ประมาณเกือบ 3 เดือน ซึ่งสถานการณ์ยังคงปกติ มีความปลอดภัย แต่ผู้ปกครองไม่สบายใจจึงอยากให้เดินทางกลับเพราะกลัวว่าสถานการณ์อาจบานปลายหากยังรอในอนาคตอาจเดินทางกลับไม่ได้

แต่ส่วนตัวมั่นใจว่าเมืองที่อยู่มีความปลอดภัยสูง คนในเมืองยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ เดินทางออกไปทำงานได้แต่ออกนอกเมืองไม่ได้มีทหารคอยคุ้มกันอยู่ ในส่วนของตนเองและเพื่อนๆ ติดตามข่าวสารจากช่องทางออนไลน์มาโดยตลอด นายจ้างเองก็บอกทุกวันว่าปลอดภัย แต่ก็ยอมรับว่า ส่วนตัวก็มีความกังวลในสถานการณ์อยู่บ้าง

ด้าน นายทักษิณ วัฒนุยาน นักเรียนวิทยาลัย เกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ด ยอมรับว่า ในเมืองอลาวาแม้จะเป็นพื้นที่ปลอดภัยแต่ได้ยินเสียงทุกครั้งที่ระเบิดลงทุกครั้งในจุดอื่นในพื้นที่ใกล้เคียง แม้เสียงจะไม่ดังมาก แต่อิสราเอลก็ดูแลเป็นอย่างดี มีการแจ้งเตือนตลอดว่าหลุมหลบภัยอยู่จุดใด สถานการณ์ล่าสุดเป็นอย่างไร

ครูของนักเรียนฝึกงานอิสราเอล เผย นักเรียนบางส่วนยังไม่กลับไทยเหตุยังมั่นใจความปลอดภัยของพื้นที่ เพราะอยู่ห่างจุดไม่สงบ 300 กม.-ให้เป็นไปตามสมัครใจไม่บังคับว่ากลับหรือไม่

น.ส.สุทธาพันธ์ โพธิ์กำเนิด ครูวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศรีสะเกษ ซึ่งเคยเดินทางไปเป็นล่ามในประเทศอิสราเอล ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า นักศึกษาที่ไม่ได้เดินทางกลับมาในรอบนี้ เนื่องจากนักศึกษาและผู้ปกครองยังมั่นใจในความปลอดภัยที่จะอยู่ในประเทศอิสราเอล คือศูนย์ฝึกอบรมเกษตรกรรมนานาชาติอาราวา (AICAD) ห่างจากจุดที่เกิดความไม่สงบประมาณ 300 กิโลเมตร

ซึ่งปกติทางการอิสราเอลจะอพยพพลเรือนมาหลบภัยในเขตอาราวา ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรม โดย AICAT ยืนยันว่าเขตอาราวานั้นมีความปลอดภัยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศอิสราเอลแล้ว จึงทำให้นักศึกษาที่เหลือมั่นใจ แต่หากสถานการณ์ไม่ปลอดภัยจริง AICAT แจ้งว่าก็พร้อมให้นักศึกษาทุกคนอพยพกลับประเทศไทยเช่นกัน

น.ส.สุทธาพันธ์ ยืนยันว่า มีการพูดคุยกับนักศึกษาและผู้ปกครองในสังกัดวิทยาลัย ผ่านแอพพลิเคชันซูมอย่างสม่ำเสมอ เกี่ยวกับการตัดสินใจอพยพกลับหรือไม่กลับประเทศไทย โดยไม่มีการบังคับให้ตัดสินใจใดๆ ทั้งสิ้น ก่อนหน้านี้มีนักศึกษาแจ้งความจำนงกลับประเทศไทยมากกว่านี้ แต่เนื่องจากนักศึกษาและผู้ปกครองประเมินสถานการณ์กันใหม่แล้วจึงอพยพกลับวันนี้เพียง 7 คน

ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ที่นักศึกษาอยู่นั้น มีล่ามคอยอยู่กับนักศึกษา เพื่อประสานงานกับ AICATและสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟด้วย ไม่เคยเกิดเหตุการณ์รุนแรงขนาดนี้มาก่อน ต้องมอบให้ทางฝ่ายบริหารพิจารณา แต่ปกติ AICATจะประชุมกับเราปีละครั้งก่อนจะมีโควตามา

ด้านนายสิงหนาถ โถทอง ครูวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นศิษย์เก่าอาชีวศึกษาที่ไปฝึกอบรมในประเทศอิสราเอลรุ่นที่ 14 จากรุ่นปัจจุบันรุ่นที่ 24 ยืนยันเช่นเดียวกับครูวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศรีสะเกษถึงการพูดคุยกับนักศึกษาและผู้ปกครองเพื่อตัดสินใจอพยพกลับโดยสมัครใจ นอกจากนี้ ยังมีการติดตามสภาพร่างกายและจิตใจของนักศึกษาเป็นประจำทุกวันว่า มีความพร้อมในการอยู่ในประเทศอิสราเอลต่อไปหรือไม่ ซึ่งพบว่านักศึกษายังมีขวัญและกำลังใจดี

Previous post “อุ้ม ลักขณา” โพสต์รูปและแคปชั่นเด็ด ชั่วโมงนี้เกินต้านจริงๆ
Next post “แพท ณปภา” ตั้งคำถามกับ “เบนซ์ เรซซิ่ง” ฟังคำตอบแล้วยิ้มเลย