ศาลฯ พิพากษา ลายเซ็น เกษม โอนหุ้น โกลเด้น มิวสิค ไม่ใช่ของจริง ครอบครัวชี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ

พิชา ป้อมค่าย ทนายความของ ครอบครัวณรงค์เดช เปิดเผยว่า จากกรณีที่สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายณพ ณรงค์เดช และคุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา กับพวกในข้อหาปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ตั้งแต่ปี 2564 เป็นคดีหมายเลขดำที่ 1708/2564 กรณีที่นายณพ อ้างว่านายเกษม (บิดา) เป็นตัวแทนให้กับคุณหญิงกอแก้ว (แม่ยาย) ในการซื้อหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด และการโอนหุ้นวินด์ เอนเนอร์ยี่ ไปให้บริษัทโกลเด้น มิวสิค ซึ่งตั้งอยู่ในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ครอบครัวมีแถลงการณ์ประกาศตัดนายณพ ออกจากตระกูลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561

ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้มีคำพิพากษาเป็นคดีหมายเลขแดงที่ อ1753/2566

โดยศาลมีคำสั่งพิพากษาว่า เอกสารจำนวน 5 ฉบับเป็นลายเซ็นปลอม กล่าวคือ กล่องไปรษณีย์
กล่องพัสดุ

1) สัญญาซื้อขายหุ้นวินด์ ที่นายเกษม ทำกับบริษัท เคพีเอ็น เอนเนอยี (ประเทศไทย) จำกัด

2) หนังสือแต่งตั้งตัวแทน ที่นายเกษม รับเป็นตัวแทนของคุณหญิงกอแก้วในการซื้อหุ้นวินด์

3) ตราสารการโอนหุ้น ที่นายเกษม โอนหุ้นของบริษัทโกลเด้น มิวสิค ให้แก่คุณหญิงกอแก้ว

4) ใบซื้อขายหุ้น ที่นายเกษม ขายหุ้นบริษัทโกลเด้น มิวสิค ให้แก่คุณหญิงกอแก้ว

5) คำประกาศเจตนารมณ์ในการเป็นทรัสต์ ที่นายเกษมประกาศว่า หุ้นบริษัทโกลเด้น มิวสิคเป็นของคุณหญิงกอแก้ว และผลประโยชน์ใดๆ ที่เกิดขึ้นจากหุ้นต้องตกเป็นของคุณหญิงกอแก้ว รายละเอียดของคดีดังกล่าวขอให้นายพิชา ป้อมค่าย ทนายความของครอบครัวณรงค์เดชชี้แจงต่อไปโดยทนายความครอบครัวณรงค์เดช

ทั้งนี้ ผลจากคำตัดสินดังกล่าว ส่งผลให้ธุรกรรมที่ดำเนินการภายใต้ลายเซ็นของ เกษม ก่อนหน้านี้นั้นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง และถือว่าไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉพาะในด้านสัญญาแต่งตั้งตัวแทน และการโอนหุ้น โกลเด้น มิวสิค ให้กับบุคคลอื่น

โดยก่อนหน้านี้ เกษม ได้ถือหุ้นใน โกลเด้น มิวสิค อยู่ที่ 99.99% และโกลเด้น มิวสิค ถือหุ้นใน 38% ซึ่งผลของคำสั่งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินการในอีกกว่า 10 คดีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหลังจากนี้ทีมทนายจะนำคำสั่งดังกล่าวมาพิจารณา โดยเฉพาะการพิจารณายื่นเรื่องต่อทางการฮ่องกงที่ โกลเด้น มิวสิค จดทะเบียนอยู่ จะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้างหลังจากนี้

กฤษณ์ ณรงค์เดช เป็นบุตรคนโตของ เกษม ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท ‘เคพีเอ็น’ (KPN) เปิดเผยว่า ปัญหาของ WEH เรื้อรังมากกว่า 7 ปี ซึ่งเป็นหาที่เราไม่ได้อยากให้เกิด การดำเนินการฟ้องร้องที่เกิดขึ้น เราไม่ได้อยากเอาผิดแบบเอาเป็นเอาตาย แต่ต้องการสร้างความยุติธรรมให้กับคุณพ่อ ว่าท่านไม่ได้ทำเรื่องนี้จริงๆ และความจริงก็ได้ปรากฏออกมาแล้ว

โดยที่ผ่านมาสถานการณ์ที่เกิดขึ้น 3 พี่น้องในฐานะรุ่นที่ 3 ของตระกูล พยายามหาทางออกมาโดยตลอด แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ โดยหลังจากนี้ ผม กับ กรณ์ ณรงค์เดช จะไม่ให้มีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นในรุ่นถัดไปเด็ดขาด และมองว่าธรรมนูญครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ และได้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างชัดเจนแล้ว

Previous post แอบกลับบ้านจับโป๊ะเมีย ชาวบ้านลือแต่งสวยเที่ยงคืน จนมุมเพราะวงจรปิด สารภาพไปไหนมา
Next post “อุ้ม ลักขณา” โพสต์รูปและแคปชั่นเด็ด ชั่วโมงนี้เกินต้านจริงๆ